ไควาแระต้นสีแดง ที่รสชาติเผ็ดซาบซ่า นิดๆ คล้ายกับวาซาบิ

ไควาแระต้นสีแดง

ไควาแระต้นสีแดง ต้นอ่อนหัวผักกาด” หรือที่ประเทศญี่ปุ่นเรียกว่า “ไควาเระ” เป็นของกินที่ชาวญี่ปุ่นนิยมกิน อุดมไปด้วยคุณค่าอย่างเช่น สารไฟโตนิวเทรียนท์ ช่วยต้านทานอนุมูลอิสระ ลดการเสี่ยงสำหรับการกำเนิดโรค โรคมะเร็ง เพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ยิ่งไปกว่านี้ ยังมีสารรูตำหนินที่ช่วยต่อต้านการอักเสบต่างๆช่วยรักษาโรคภูมิแพ้ ทำให้การแพ้ฝุ่นผงและก็อาการหอบหืดดียิ่งขึ้น

แนวทางปลูกได้ไม่ยากแช่นํ้าทิ้งเอาไว้ 5-10 ชั่วโมง เพื่อนํ้าซึมเข้าเม็ด นำดินปลูกใส่ไว้ภายในถาดเพาะ หว่านเม็ดบนดินปลูก เกลี่ยให้เม็ดไม่ซ้อนกัน รดนํ้าให้เปียก นำไปเอาไว้ในที่ร่มและก็มีอากาศระบายในระยะ 1-2 วันแรก หาวัสดุหุ้มดินเพื่อบังคับให้รากแทงลงดิน รดนํ้ายามเช้ารวมทั้งเย็นพอให้เปียกแฉะ ระวังไม่ให้เฉอะแฉะ วันที่ 3 เป็นต้นไป สามารถเปิดให้รับแดดอ่อนๆได้ เพียงพอปลูกได้ระยะราว 7-10 วัน สามารถตัดเพื่อนำมาทำอาหารหรือขายได้โดยทันที

 

ไควาแระต้นสีแดง

ไควาแระต้นสีแดง อีกทางเลือกของอาหารสุขภาพ

“ต้นอ่อนผักบุ้ง” อุดมไปด้วยสารอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามินเอ บำรุงสายตา แล้วก็ยังช่วยทำนุบำรุงเลือด บำรุงผิวพรรณ ช่วยกระตุ้นระบบการเผา มีเส้นใยสูงช่วยประเด็นการถ่าย”ธรรมดาการบริโภคผัก ดังเช่นว่า บร็อคโคลี หรือคะน้าที่โตเต็มวัย พวกเราจะรู้จักดีกับการกินกันฯลฯหรือหัวใหญ่ๆแต่แรกเริ่มยิ่งโตคุณประโยชน์สารอาหารบางจำพวกยิ่งลดลง แต่ว่าการทานต้นอ่อนจะได้คุณค่ามากยิ่งกว่า เทียบตัวอย่างเช่นการทานต้นอ่อนบร็อคโคลีเพียงแต่ 50 กรัม ได้คุณค่าพอๆกับการทานบร็อคโคลีโตเต็มวัย 1 หัว”ยิ่งกว่านั้นงานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยยังการันตีว่า ไมโครกรีนเป็นประโยชน์ดีต่อร่างกายมากมาย โดยยิ่งไปกว่านั้นต้นอ่อนของผักในเชื้อสายกะหล่ำ ดังเช่น บร็อคโคลี คะน้า กะหล่ำปลี หัวผักกาด (ไควาเระ) มัสตาร์ด เนื่องด้วยมีสารต้านทานโรคมะเร็ง (glucosinolate) ที่มีเฉพาะในผักเชื้อสายกะหล่ำเท่านั่น

เวลาเดียวกันเดี๋ยวนี้ได้มีการเรียนรู้การนำผักประจำถิ่นของไทยมาเพาะเป็นไมโครกรีนได้หลากหลายประเภท อาทิเช่น กระเจี๊ยบแดง ผักขี้หูด สามารถเอามาเพาะเป็นไมโครกรีนได้ รวมทั้งมีคุณค่าทางของกินไม่แพ้ไมโครกรีนต่างชาติ นับว่าเป็นลู่ทางใหม่ให้กับเกษตรกรและก็ผู้ซื้อในการเพาะไมโครกรีนน มีแนวทางราวการปลูกผักทั่วๆไป แต่ว่าใช้ช่วงเวลาการเพาะปลูกสั้นกว่าเพียงแค่ 7-10 วันเพียงแค่นั้น นับว่าเป็นจุดเด่นอีกอย่างของการเพาะไมโครกรีนเป็นเมื่อต้นอ่อนมีขนาดความสูงราวๆ 1 – 4 นิ้ว มีใบเพียงแค่ 2 – 3 ใบ ก็สามารถเก็บมาขายหรือเอามากินได้แล้ว ทำให้สามารถเพิ่มรอบการสร้างได้เร็วกว่าการปลูกผักต้นโตเต็มวัยทั่วๆไปหลายเท่า

เชื่อไหม ทานต้นอ่อนบรอคอยกวัวลี 50 กรัม จะได้คุณประโยชน์ทางของกินพอๆกับบคอยกวัวลีโตเต็มวัย 1 หัว ต้นอ่อนที่ว่ามิได้จำกัดเฉพาะทานตะวัน แม้กระนั้นยังมีผักอีกหลายอย่างซึ่งสามารถทานในแบบอย่างต้นอ่อนได้เหมือนกัน”ไมโครกรีน” เป็นต้นอ่อนของผักจำพวกต่างๆที่มีการผลิออกและก็ยังเติบโตไม่สุดกำลัง โดยบางทีอาจเพาะจากเม็ดของพืช ผัก สมุนไพร หรือเมล็ดพืชต่างๆข้อดีของไมโครกรีนที่ต่างจากผักทั่วๆไปหมายถึงถึงแม้ไมโคร กรีนจะเป็นผักขนาดจิ๋ว ต้นเล็กๆแต่ว่ามีรายงานศึกษาค้นคว้าพบว่า ไมโครกรีน มีจำนวนสารอาหารแล้วก็สารพฤกษเคมีสูง ได้แก่ จำนวนวิตามินซี แคโรทีนอยด์ สารประกอบฟีนอล จำนวนธาตุต่างๆ(Ca, Mg, Fe, Zn, Sn และก็ Mo) โดยเฉพาะสารต่อต้านโรคมะเร็งสูงขึ้นมากยิ่งกว่าในผักโตเต็มวัยทั่วๆไป ด้วยคุณค่าที่มิได้เล็กตามขนาด นำมาซึ่งการทำให้ไมโครกรีนได้รับความนิยมของลูกค้ามากขึ้นโดยตลอด

การเพาะไมโครกรีนนั้น มีวิธีการราวการปลูกผักทั่วๆไป  ไควาแระต้นสีแดง  แม้กระนั้นใช้ช่วงเวลาการเพาะปลูกสั้นกว่าเพียงแค่ 7-10 วันแค่นั้น เมื่อต้นอ่อนมีขนาดความสูงราวๆ 1-4 นิ้ว มีใบเพียงแต่ 2-3 ใบ ก็สามารถเก็บมาขายหรือเอามากินได้แล้ว โดยปลูกไว้ในระบบปิดจะช่วยลดการเสี่ยงสำหรับการมีการแปดเปื้อน และก็การใช้สารเคมีที่ก่อให้เกิดอันตราย แม้กระนั้นถ้าหากปลูกเอาไว้ในระบบเปิดต้องมีเวลาเอาใจใส่ดูแลมากยิ่งกว่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคแมลง ไมโครกรีนจะเป็นอีกหนทางของคนที่เกลียดชังทานผักที่จะสามารถทานได้ง่ายและก็สบายเพิ่มขึ้น

ไควาเระหมายถึงต้นอ่อนที่เพาะจากเม็ดหัวผักกาด นิยมกินมากมายในประเทศญี่ปุ่นถั่วงอกหัวโตหมายถึงถั่วงอกที่เพาะจากจากถั่วเหลือง จะมีขนาดหัวที่โตกว่าถั่วงอกที่สร้างขึ้นมาจากถั่วเขียวมองเห็นได้เป็นประจำในชุดของกินประเทศเกาหลีโต้วเหมี่ยวเป็นถั่วงอกที่เพาะจากถั่วลันเตาผักอนามัยกลุ่มนี้นำเอามาทำเป็นรายการอาหารกล้วยๆเป็นต้นว่า ผัดถั่วงอกเต้าหู้ ผัดเห็ดหูหนูใส่ถั่วงอก เกาเหลา หรือจะใส่เป็นองค์ประกอบเพิ่มอีกในของกิน เป็นต้นว่า ผัดไทย ขนมจีน หอยทอด ผัดหมี่ได้ทั้งหมด ด้วยเหตุว่าผักที่ปลูกเองด้วยความเต็มใจอร่อยกว่าซื้อเป็นไหนๆ

ไควาเระ (Kaiware) หรือต้นอ่อนหัวผักกาด (หัวไช้เท้า)ไควาเระ เอามาทำครัวอร่อยได้หลายประเภทอีกทั้งสุกี้ยากี้ ชาบุชาบุ สเต็ก ฯลฯ สำหรับรายการอาหารไทยๆก็อรอ่ยไม่แพ้กัน ได้แก่ สลัด ยำประเภทต่างๆหรือทำ แกงจืด ผัดน้ำมันหอย ก็อร่อยทีเดียว ห้องอาหารประเทศญี่ปุ่นถูกใจใช้ประกอบอาหารนะครับนอกนั้นไควาเระยังปลูกได้ไม่ยากเสมือนถั่วงอก บ้านพวกเรา ปลูกภายในภาชนะใดก็ได้สนุกสนาน อร่อยแล้วก็ได้ประโยชน์ต่อร่างกายนะครับ

ไควาเระ หรือต้นอ่อนหัวผักกาด เป็นเยี่ยมในต้นอ่อนที่ปลูกได้ไม่ยาก เป็นที่นิยมในต่างถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งญี่ปุ่น มีรสเผ็ดเหมือนวาซาบิ มีกลิ่นแบบหัวผักกาด สามารถนำต้นอ่อนมาเตรียมอาหารได้มากมาย อุดมไปด้วยคุณค่าเยอะมาก ดังเช่น มีสารไฟโตนิวเทรียนท์ ที่ช่วยต้านทานออกซิเดชั่น ทำลายฤทธิ์ของอนุมูลอิสระลดความเสื่อมโทรมที่เกิดสังกัดดีเอ็นเอ ลดการเกิดโรคมะเร็งได้ เพิ่มภูมิคุ้มกันโรค ควบคุมการออกฤทธิ์ของฮอร์โมนให้อยู่ในระดัสมดุล มีสารรูว่ากล่าวน ที่ช่วยต้านทานการอักเสบต่างๆรักษาโรคภูมิแพ้ ช่วยทำให้ลักษณะของการแพ้ฝุ่นผง รวมทั้งโรคหอบหืดดียิ่งขึ้น รักษาเส้นโลหิตขอด แล้วก็ริดสีดวงทวาร ได้อย่างมีคุณภาพ

 

ไควาแระต้นสีแดง

กระแสรักสุขภาพยังได้รับความนิยมกัน ผักแนวปราศจากพิษ

ไม่จำเป็นต้องใช้ปุ๋ยที่เป็นโทษแม้แต่น้อย ไม่มีสารเคมี ไม่เป็นอันตรายแน่ๆ พวกนี้จะสามารถปลูกทานเองได้ แล้วก็สามารถเป็นวิถีทางหาเงินเสริมได้อีก หากว่าท่านทราบกรรมวิธี หาวิถีทางขายได้ และก็ทราบแหล่งสำหรับหาวัสดุ รวมทั้งเมล็ดพันธุ์ต่างๆเป็นอีกหนทางของการประหยัดเริ่มจากการที่ผมได้ยินชื่อผักประเภทนี้ มันเป็นยังไง ? ไควาเระ ฟังแล้วแปลกๆเนื่องจากว่าไม่ใช่ภาษาบ้านพวกเราแน่ๆนะครับ ก็เลยทดลองหาข้อมูลมองซักหน่อย ซึ่งไควาเระนั้นเป็นภาษาประเทศญี่ปุ่น หมายความว่าต้นอ่อนหัวไช้เท้า (ไควาเระ ไดกง – kaiware Daikon) เป็นผักที่คนญี่ปุ่นนิยมกิน ไม่ว่าจะเป็น ทานใหม่ๆทานเป็นเครื่องแนมปูอัดวาซาบิ หรือผสมในสลัด ซุป บางทีอาจลวกแป๊บก่อนนำไปทำอาหาร รสออกซ่าๆเผ็ดนิดๆมีกลิ่นแล้วก็รสส่วนตัว

จากที่ผมทดลองทานใหม่ๆรสนั้นออกเหมือนวาซาบิมากมายๆแม้กระนั้นผมว่าในบ้านพวกเรานั้นจัดเป็นเครื่องแนมลาบอีสาน แล้วก็น้ำตก ได้รสไปอีกในลัษณะหนึ่งนะครับ คล้ายกับพวกเราทานกระเทียมเลย หรือไม่ก็อาจจะนำมาประกอบเครื่องยำก็ได้รสเผ็ดนิด เปรี้ยวหน่อย ออกแนวจี๊ดจ๊าดสะใจแน่ๆ หรือแม้แต่ใส่ด้านในสลัด ชาบู สุกี้ แล้วก็สเต็กก็ยังได้นะครับ รสอย่างงี้เลือดลมเดินดีแน่ๆนะครับ แม้กระนั้นถ้าหากผู้ที่ไม่คุ้นชินกับรสอย่างงี้ ทานทีแรกบางครั้งอาจจะเกลียดเลยก็ได้กระแสรักสุขภาพยังอินเทรนด์ไม่ว่าจะสมัยไหน แล้วก็ยิ่งในเวลานี้ผักเริ่มราคาแพงสูงมากขึ้น

โดยยิ่งไปกว่านั้นผักแนวปราศจากพิษ เพราะฉะนั้น ทำให้ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยสงสัยว่า  ไควาแระต้นสีแดง  ผักกลุ่มนี้จะปลูกทานเองได้ไหม หรือ จะสามารถเป็นหนทางหาเงินเสริมได้หรือไม่ บอกเลยว่าได้ ทั้งคู่อย่าง ถ้าคุณทราบขั้นตอนการ แล้วก็ หาวิถีทางขายได้ รวมทั้ง ทราบแหล่งสำหรับหาวัสดุ รวมทั้ง เม็ดพันธ์ต่างๆแต่ว่าก็ควรจะมีคนถามอีกว่า อยู่คอนโด ไม่มีที่จะปลูกอย่างไร พวกเราก็จำต้องตอบว่าทำเป็นถ้าหากคุณต้องการจะทำผักที่พวกเราต้องการจะเสนอแนะให้ปลูกนั้นเวลานี้กำลังนิยมกันมากมายอาทิเช่น โต้วเหมี่ยว (ต้นอ่อนถั่วลันเตา) ต้นอ่อนทานตะวัน ถั่วงอก แล้วก็ อีกหลายประเภท

ซึ่งสามารถปลูกได้ถึงแม้มีพื้นที่น้อยๆ สล็อตออนไลน์ รวมทุกค่าย  เพราะเหตุว่าผักบางจำพวกเพียงแค่ใส่ตระกร้าเล็กๆก็ปลูกได้ หรือ ใส่ขวดก็ปลูกได้ก็เลยไม่สิ้นเปลืองพื้นที่ รวมทั้ง ยังได้ผักปราศจากพิษไว้ทานเอง หรือ ถ้าปลูกได้เยอะแยะ จะแพคขายให้เพื่อนฝูงๆสถานที่ทำงาน หรือ จัดจำหน่ายแถวบ้านก็ได้ อุปกรณ์ต่างๆถ้าเกิดง่าย ราคาไม่แพง เม็ดพันธ์ต่างๆหาซื้อได้จากร้านต้นไม้ที่สวนจตุจักร หรือ จะสั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ตก็ได้ แต่ว่าจำต้องเลือกกันสักหน่อยเพราะเหตุว่าบางร้านค้านั้นเม็ดพันธ์ไม่ค่อยดี ที่นี้พวกเราก็มาดูกันว่าขั้นตอนและก็สิ่งของมีอะไรบ้าง

ไควาแระต้นสีแดง

ต้นอ่อนของผัก หรือ ผักจิ๋ว ที่มีชื่อเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Microgreen

นั้น นับว่าเป็นของกินที่ได้รับการยินยอมรับว่ามีคุณค่าทางของกิน อุดมไปด้วยสารอาหารเยอะมาก จนกระทั่งมีคำพูดที่ว่า รับประทานผักอายุสั้น ทำให้อายุยืน แถมต้นอ่อนพวกนี้ยังมีรสชาติที่อร่อย หวานกรอบ ทานง่ายไม่เหม็นเขียว ทานได้ทุกเพศทุกวัยผักใบเขียวที่มีคุณค่าทางของกินสูง อุดมไปด้วยวิตามินเอ, ซี, อี,เค รวมทั้งวิตามินบีมาก แล้วก็อุดมด้วยแคโรทีนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งปกป้องการเป็นโรคมะเร็ง แล้วก็ยังมี ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม โพแทสเซียม และก็แคลเซียมยิ่งกว่านั้นผักใบเขียวมีใยอาหาร และก็จำนวนน้ำสูง ซึ่งช่วยปกป้องท้องผูก ทำให้ระบบขับถ่ายดี

การทานอาหารที่ดีควรจะรับประทานอาหารเป็นยา ที่ช่วยลดการเกิดโรคแล้วก็ทำให้สุขภาพร่างกายที่แข็งแรง  ไควาแระต้นสีแดง   การเลือกทานอาหารก็เลยเป็นเรื่องสำคัญในชีวิตประจำวันการปลูกต้นอ่อน (Microgreen)การปลูกต้นอ่อนนั้น จะเป็นการปลูกผัก และก็เก็บเกี่ยวในตอนของการฯลฯอ่อน โดยต้นอ่อนจะมีใบเลี้ยง 2 ใบ และก็มีความสูงราวๆ 2-3 นิ้ว ช่วงเวลาสำหรับการปลูกราวๆ 6-7 วัน การปลูกผักจิ๋ว (Microgreen) ในบ้านสามารถทำเป็นง่าย ใช้เนื้อที่ไม่มากมาย ปรารถนาเพียงแค่ความชุ่มชื้น และก็ แสงตะวันในตอน 1-2 วันก่อนเก็บเกี่ยวแค่นั้น ผู้ที่ไม่มีประสบการณ์สำหรับในการปลูกผัก หรือผู้ที่ล้มเหลวจากการปลูกผักสวนครัว หรือ เด็กๆก็สามารถทำเป็นการปลูก Microgreen เว้นเสียแต่เป็นกิจกรรมที่ได้ทำด้วยกันในบ้านแล้ว ยังเป็นเหตุให้พวกเราได้ทานผักสดๆที่ปลูกด้วยความสามารถพวกเราเอง รวมทั้งเชื่อมั่นได้ว่าผักที่พวกเราปลูกนั้นไม่มีสารเคมีอะไรก็ตามแถมประหยัดเงินไม่ต้องไปเสียเงินซื้อต้นอ่อนตามสร้างสรรพสินค้า ที่แพงออกจะสูงอีกด้วย